พรีไซซ ขอแนะนำ 2 เทคนิคสร้างอากาศบริสุทธิ์ในบ้านและที่ทำงาน ง่ายๆ เริ่มต้นได้ทันที
วิธีที่เร็วที่สุดและเป็นทางเลือกแรกๆของยุคนี้คือ การใช้เครื่องฟอกอากาศ ซึ่งตอบโจทย์การลดมลพิษและฝุ่นในบ้านและที่ทำงานได้ดี
เทคนิคที่ 1 เลือกใช้เครื่องฟอกอากาศติดตั้งในบ้านหรือที่ทำงาน เพื่อลดฝุ่น มลพิษ แถมยังประหยัดพลังงาน
หลายคนคงงงว่าเครื่องฟอกอากาศ มันจะมาเกี่ยวข้องกับการประหยัดพลังงานได้อย่างไร ขอตอบว่าเกี่ยวข้องกันครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้องที่ติดเครื่องปรับอากาศ
มาถึงตรงนี้เชื่อว่ามีหลายคนเข้าใจว่าเครื่องปรับอากาศหรือแอร์นั้นทำหน้าที่ฟอกอากาศอยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริงเครื่องปรับอากาศมุ่งเน้นไปที่การทำให้อากาศภายในห้องมีอุณหภูมิต่ำลงโดยทำการแลกเปลี่ยนอากาศภายในกับภายนอกห้องที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า
ซึ่งในเครื่องปรับอากาศส่วนใหญ่จะมีไส้กรองลักษณะคล้ายกับเครื่องฟอกอากาศอยู่แต่ถี่น้อยกว่ามาก เมื่อเครื่องปรับอากาศทำงานไปนานๆฝุ่นละออง ตัวไรฝุ่น และละอองอื่นๆ ในห้องจะเข้าไปอุดตันแผงไส้กรองทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักขึ้นในการแลกเปลี่ยนอากาศ เป็นเหตุให้เครื่องทำงานไม่เต็มขนาด BTU ของมันหรือที่เราเรียกว่าแอร์ไม่เย็นนั่นเอง
นอกจากนี้แอร์ที่มีไส้กรองตันมากๆจะกินกำลังไฟมากขึ้นด้วย การติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการประหยัดไฟและอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศด้วย
ส่วนจะเป็นรุ่นไหนดีนั้น.. ต้องบอกว่าปัจจุบันในตลาดบ้านเรา มีใช้เลือกหลากหลายรุ่น ขึ้นอยู่กับงบประมาณและปริมาณพื้นที่ของห้องที่จะใช้ เรื่องนี้ปรึกษาพี่ช่างฯ ใกล้บ้านได้เลยจ้าา…
คราวนี้มาดูวิธีที่ 2 ที่จะช่วยให้อากาศบริสุทธิ์กับเรา แบบประหยัดและยั่งยืน
เทคนิคที่ 2 นี้ใช้ต้นไม้ในการฟอกอากาศ ดูดสารพิษ
มีงานวิจัย Interior landscape Plants for Indoor Air Pollution Abatement ของ ดร.บีซีวูฟเวอร์ตัน (Billy C. Wolverton) นักวิจัยแห่งสถาบันวิจัยอวกาศนาซ่า สหรัฐอเมริกา ได้ค้นพบความสามารถ และประสิทธิภาพของไม้ประดับในการกำจัดสารมลพิษในอากาศได้อย่างดีเยี่ยม
ต้นไม้ต่างชนิดกันจะดูดซับสารเคมีที่ต่างกัน ไม่เพียงแต่สารเคมีเท่านั้น ต้นไม้ยังสามารถดูดซับเอามลพิษจากน้ำผ่านทางรากได้ด้วย และช่วยรักษาประจุไฟฟ้าลบในอากาศ ช่วยกำจัดกลิ่น รักษาความชุ่มชื้นในอากาศโดยกระบวนการคายน้ำ รวมถึงเพิ่มออกซิเจนให้แก่อากาศ และลดคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย
ต้นไม้สามารถดูดซับสารพิษในอากาศ แล้วเปลี่ยนกลับมาเป็นอากาศดีให้เราหายใจเข้าไป ด้วยกระบวนการของพืช ที่ประกอบด้วย การสังเคราะห์แสง การหายใจ และการคายน้ำ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้มีความสัมพันธ์ในการดูดซับสารที่เป็นพิษต่อคน และพืชเองก็ยังสามารถนำสารเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ต่อตัวเองได้ด้วย
หากเราสามารถที่จะปลูกต้นไม้ในบ้าน หรือที่ทำงานได้ สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึง คือ การเลือกชนิดพืช ควรเป็นพืชที่ปลูกเลี้ยงง่าย ทนทานต่อสภาพแสงน้อย หรือ สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพภายใต้แสงจากหลอดไฟ เช่น พืชกลุ่มไม้ประดับ ซึ่งราคาเริ่มต้นเพียงหลักสิบบาท เท่านั้น…
แต่….
จะดีที่สุดหากเราสามารถสร้างอากาศที่บริสุทธิ์ให้กับพื้นที่รอบตัว โดยการรวมเอา 2 เทคนิคนี้เข้าไว้ด้วยกัน ทั้งทำให้อากาศบริสุทธิ์ ช่วยประหยัดไฟ และสร้างพื้นที่สีเขียวเพื่อให้โลกใบนี้กลับมาสดใสอีกครั้ง
แหล่งที่มาของข้อมูล : วารสารศิริราช